งานแพทย์แผนไทย เปิดให้บริการอบสมุนไพร เพื่อสุขภาพและรักษาโรค
ให้บริการอบไอน้ำด้วยสมุนไพรนานาชนิด ที่มีคุณสมบัติในการบำบัดโรคต่าง ๆ
- ภูมิแพ้ โรคหอบหืดในระยะที่ไม่รุ่นแรง
- อาการคัดจมูกน้ำมูกไหล
- มารดาหลังคลอด
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- คลายเครียด ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น
- บำรุงผิว ขัดผิว ขับน้ำเหลือง
โดยมีห้องอบไอน้ำที่สะอาด ปลอดภัย กว้างขวาง พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้คำแนะนำตลอดเวลาที่รับบริการ เปิดให้บริการในเวลาราขการ จันทร์ - ศุกร์
ขั้นตอนการอบสมุนไพรในสถานบริการสาธารณสุขจะต้องซักประวัติโดยละเอียด ตรวจร่างกาย ชั่งน้ำหนัก วัดความดันและวัดไข้ก่อน โดยแพทย์แผนโบราณแบบประยุกต์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ดูแลหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ เมื่อตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่จะอบสมุนไพรต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด สวมเสื้อที่เตรียมไว้ให้ เวลาในการอบสมุนไพรครั้งแรกควรจะเริ่มจาก 30 นาที 2 ครั้งๆ ละ 15 นาที ขณะที่นั่งพักควรดื่มน้ำเปล่า (ไม่เย็น) หรือดื่มนม 1 แก้ว หลังจากอบสมุนไพรครบตามเวลา ควรนั่งพักจนกว่าเหงื่อจะแห้ง เพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิก่อนแล้วค่อยอาบน้ำ ควรอบสมุนไพรวันเว้นวันหรือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ข้อห้ามในการอบสมุนไพร
- มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
- เป็นโรคติดต่อร้ายแรงทุกชนิด
- มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไต โรคหัวใจ โรคลมชัก โรคหอบหืดรุนแรง
- สตรีมีประจำเดือน รวมกับมีไข้ ปวดศรีษะ
- มีอาการอักเสบจากบาดแผล
- อ่อนเพลีย (อดนอน อดอาหาร หรือหลังรับประทานอาหารใหม่)
- ปวดศรีษะ เวียนศรีษะ คลื่นไส้
ในกรณีที่มีอาการปวดเฉพาะที่ เช่น ปวดตามข้อมือ ข้อเท้า ปวดตามกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ในฤดูหนาวจะมีอาการปวดมากขึ้น การอบสมุนไพรอาจจะไม่ได้ผลมากนัก ควรใช้การประคบสมุนไพร บริเวณที่ปวดซึ่งสามารถทำได้เอง โดยใช้สมุนไพรที่คล้ายกับการอบสมุนไพร ได้แก่
- เหง้าไพล 1/2 กิโลกรัม
- ผิวมะกรูด 10 ลูก
- ตะไคร้บ้าน 1/2 กิโลกรัม
- ใบมะขาม 1 ขีด
- ขมิ้นอ้อย 1/2 กิโลกรัม
- ว่านนางคำ 1/2 กิโลกรัม
- ใบส้มป่อย 1/2 กิโลกรัม
- เกลือแกง 60 กรัม
- การบูร 60 กรัม
นำสมุนไพรมาโขลกหยาบๆ รวมกัน แบ่งออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ห่อด้วยผ้าขาวดิบ จะได้ลูกประคบ 2 ลูก และนำมานึ่งให้ร้อน นำมาประคบบริเวณที่ปวดสลับกัน 2 ลูก เมื่อใช้แล้วให้ผึ่งแดดให้แห้ง ใส่กล่องมิดชิดเก็บไว้ในตู้เย็นใช้ได้ 5-7 วัน สังเกตสีของสมุนไพร ถ้าสีซีดแสดงว่าสมุนไพรมีสารสำคัญลดลง ถ้ามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวควรทิ้งไป
ข้อควรระวัง
ในการประคบสมุนไพร ในผู้สูงอายุหรือเด็กควรจะระวังเรื่องความร้อน ควรทดสอบความร้อนบริเวณผิวหนังที่หลังมือ ถ้าร้อนมากให้ใช้ผ้ารองก่อน ขณะประคบควรสังเกตสีของผิวหนัง ถ้าแดงมากแสดงว่าความร้อนสูง อาจจะพุพองได้ ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการชาตามปลายมือ ปลายเท้า ควรใช้ลูกประคบด้วยความระมัดระวัง