Emotional Intelligence หมายถึง ความสามารถในการตระหนักรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น กำกับ ติดตาม ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกของตนเอง และใช้พลังจากการรู้จักอารมณ์ชี้นำความคิดการกระทำ ตลอดจนแก้ไขความขัดแย้งในตนเองในชีวิตประจำวัน ในการทำงาน และในการมี สัมพันธภาพกับผู้อื่น

 

 

คนปกติจะมีวุฒิภาวะสมกับวัยของตน ถ้าอยู่ในวัยหนึ่งแต่ยังไม่มีความสามารถประจำวัยนั้นถือว่าบุคคลขาดวุฒิภาวะหากยังไม่ถึงวัยนั้น  แต่มีความสามารถประจำวัยนั้นแล้ว บุคคลนั้นก็มีวุฒิภาวะเร็วกว่าปกติ วุฒิภาวะประกอบด้วยวุฒภาวะทางกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา หรืออาจแยกเป็นวุฒิภาวะทางกาย บุคลิกภาพ ความสัมพันธ์ และความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ก็ได้

องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับเชาวน์อารมณ์
มีผู้ศึกษา EQ รวบรวมได้ใน 3 ลักษณะ คือ ศึกษาองค์ประกอบของ EQ สิ่งที่มีความสัมพันธ์กับ EQ และความสัมพันธ์ของ EQ กับ IQ พอสรุปได้ดังนี้   
1. EQ เป็นผลมาจากการอบรมเลี้ยงดู ภาวะแวดล้อม วัฒนธรรม การเรียนรู้ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ปรากฎให้เห็นได้ชัดจากบุคลิกภาพของคน ๆ นั้น         
2. EQ เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการทางสังคม อารมณ์ และสติปัญญาของบุคคล       
3. EQ เป็นผลมาจากการเรียนรู้ภายในตนและภายนอกตน       
4. การปลูกฝังและการพัฒนา EQ ของแต่ละบุคคล เป็นกระบวนการสร้างที่ต้องใช้เวลา อันเป็นผลร่วมของปฏิสัมพันธ์ใน 2 ลักษณะคือ ลักษณะการซึมซับเข้าสู่ตัวเองกับลักษณะการแสดงออกกับสิ่งแวดล้อมนอกตน

ความสำคัญและประโยชน์ของเชาวน์อารมณ์
ในชีวิตของคนเราล้วนต้องติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่นอยู่เสมอ ฉะนั้นการรู้จักและเข้าอกเข้าใจจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าทุกคนมีความพร้อมที่จะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ความสุขคงมีอยู่โดยทั่วกัน ปัจจุบันเรื่องของ EQ คือเรื่องที่ต้องการให้ผู้คนได้รู้จักอารมณ์ของตนเองและอารมณ์ของผู้อื่นเป็นอย่างดี รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงจะมีประโยชน์อย่างยิ่งจะนำไปสู่สันติสุข ทุกคนสบายอกสบายใจ นั่นคือถ้าบุคคลสามารถบริหารจัดการอารมณ์ของตนเองได้จะทำให้เกิด ความคิดอ่านที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีอุปสรรคด้านอารมณ์เข้ามาขัดขวางความคิดอ่านและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมีความสามารถในการรักษาสมดุลด้านอารมณ์ จะทำให้เป็นคนกล้าคิดกล้าทำภายใต้เหตุและผล มีการยืดหยุ่น ประนีประนอม บุคคลสามารถบริหารจัดการในหน้าที่ได้ด้วยการมีสัมพันธ์อันดี

สรุป
ในอดีตผู้คนจะให้ความสำคัญและชื่นชมกับคนเก่ง คนฉลาด หรือคนที่มี IQ สูงต่อมาภายหลังได้ยอมรับกันแล้วว่า IQ แต่เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จในชีวิตได้ทุกด้าน ในชีวิตจริงคนเราต้องการทักษะในการดำรงชีวิตอีกมากมายที่นอกเหนือไปจากความสามารถต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในเชาวน์ปัญญา เชาวน์ปัญญาตามความเข้าใจเดิมนั้นพัฒนาได้ยาก แต่พหุปัญญาพัฒนาได้ และทักษะทางปัญญาคือการคิดแบบต่าง ๆ ก็สามารถส่งเสริมและพัฒนาได้เช่นกัน คนฉลาดทางเชาวน์ปัญญาสามารถจะประสบความสำเร็จในการทำงานที่ยาก และได้รับการยกย่อง แต่จากการศึกษาเรื่องนี้แล้ว จะพบว่าไม่แน่ที่เขาจะมีความสุข นอกเสียจากว่าเขาจะมีความฉลาดทางเชาวน์อารมณ์หรือ EQ ด้วย การพัฒนา EQ ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สมควรศึกษาและนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิต    

แบบประเมินวุฒิภาวะทางอารมณ์


อ่านข้อความข้างล่างนี้แต่ละข้อ และให้คะแนนตนเองว่าท่านมีความสามารถที่ระบุไว้ในแต่ละข้ออยู่ในระดับใด จงซื่อสัตย์ต่อตนเองและตอบตามความเป็นจริง แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าทำได้ ลองให้คนสนิทให้คะแนนคุณเพื่อเปรียบเทียบกับคะแนนที่คุณให้ตัวเองก็ได้ โดยระดับคะแนนจะอยู่ในช่วง 1-5 และมีความหมายดังนี้


มีความสามารถน้อยที่สุด 1
มีความสามารถปานกลาง 2
มีความสามารถสูงมาก 3, 4, 5

1.    สามารถแยกแยะต้นเหตุของการเกิดอารมณ์ต่างๆ ของตัวเองได้
2.    ไม่รู้สึกกดดัน แม้อยู่ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียด
3.    สร้างแรงจูงใจในการทำงานได้ด้วยตนเอง
4.    รู้ว่าพฤติกรรมของท่านมีผลกระทบต่อผู้อื่นอย่างไร
5.    ริเริ่มวิธีการในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับผู้อื่นได้ประสบผลสำเร็จ
6.    สงบอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดความโกรธ
7.    รู้ว่าเมื่อไรตนเองกำลังรู้สึกโกรธ
8.    ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว หลังจากพลาดพลั้งไป
9.    สามารถสังเกตเห็นว่าเมื่อใดผู้อื่นกำลังอารมณ์หดหู่
10.    สามารถบรรลุความร่วมมือกับผู้อื่น
11.    สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว
12.    สามารถสำรวจทบทวนตนเองเพื่อเปลี่ยนสภาวะอารมณ์ของตน
13.    สร้างแรงจูงใจให้ตนเองเมื่อต้องทำงานที่ไม่น่าสนใจ
14.    ช่วยเหลือผู้อื่นในการจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ของพวกเขา
15.    ทำให้ผู้อื่นรู้สึกดี
16.    รู้ว่าเมื่อไรตนเองกำลังมีอารมณ์แปรปรวน
17.    รักษาความเยือกเย็นไว้ได้เมื่อคุณเป็นเป้าอารมณ์โกรธของผู้อื่น
18.    หยุดและเปลี่ยนกิจวัตรที่ไม่มีประสิทธิผลของตนเอง
19.    แสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
20.    ให้คำแนะนำและความช่วยเหลือสนับสนุนทางด้านอารมณ์และจิตใจแก่ผู้อื่น เมื่อเป็นที่ต้องการ
21.    รู้ว่าเมื่อไรเริ่มรับไม่ได้และต้องการแก้ตัว
22.    รู้ว่าเมื่อไรกำลังคิดในแง่ลบ และสามารถดึงตัวออกจากความคิดนั้นได้
23.    เป็นคนพูดอย่างไรทำอย่างนั้น
24.    สามารถคุยเรื่องส่วนตัวกับผู้อื่นได้
25.    สามารถบอกให้ผู้อื่นทราบถึงอารมณ์ที่เป็นอยู่ของเขาได้อย่างถูกต้อง

การคิดคะแนน

คะแนนวุฒิภาวะทางอารมณ์ของท่านนั้น จะถูกจำแนกออกเป็น 4 หมวด คือ

ก. หมวดการรู้ตัว คือคำถามข้อ 1, 6, 11, 16, 21
คะแนนรวม= 20 คะแนน

ข. หมวดความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ คือ คำถามข้อ 2, 7, 12, 17, 22
คะแนนรวม = 20 คะแนน

ค. หมวดความสามารถในการจูงใจตนเอง คือคำถามข้อ 3, 8, 13, 18, 23
คะแนนรวม = 20 คะแนน

ง. หมวดความเห็นอกเห็นใจ คือคำถามข้อ 4, 9, 14, 19, 24
คะแนนรวม = 20 คะแนน

จ. หมวดทักษะในการสังคม คือคำถามข้อ 5, 10, 15, 20, 25
คะแนนรวม = 20 คะแนน

คะแนนรวมทั้งหมด = 100 คะแนน

การแปลความคะแนนที่ได้
ถ้าได้ 100 คะแนนเต็ม ก็แสดงว่าคุณนั้นมี EI ยอดเยี่ยม,
คะแนน 50-100 แสดงว่ามีพื้นฐานที่ดีทางด้าน EI ซึ่งหากได้รับการพัฒนาแก้ไขในส่วนที่บกพร่องก็จะเป็นผู้นำที่ดี
ถ้าต่ำกว่า 50 แสดงว่ามี EI ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วๆ ไป และอาจจะมีปัญหาในการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
ส่วนคะแนนในแต่ละหมวดนั้น หากได้คะแนนต่ำกว่า 10 แสดงว่า EI ในหมวดนั้นค่อนข้างต่ำ
ส่วนจะต่ำในเรื่องใดก็ให้ไปเจาะดูคะแนนในแต่ละข้อดู

ทราบคะแนนแล้วหาก EI ออกมาค่อนข้างต่ำก็อย่าเพิ่งกรี๊ด... (เพราะเดี๋ยวใครๆ รู้หมดว่ามี EI ต่ำ) หาทางปรับปรุงตนเองเสีย ไม่มีอะไรเหนือความพยายามไปได้หรอกครับ